วันพุธที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ข้อแนะนำในการขับขี่รถกอล์ฟไฟฟ้าที่ถูกต้อง



ข้อแนะนำในการขับขี่รถกอล์ฟไฟฟ้าที่ถูกต้อง

1.ผู้ขับขี่จะต้องขับโดยการใช้เท้าขวาข้างเดียวเหยียบเบรกและคันเร่งจะเบรกก็ใช้ยกเท้าขวา ออกจากคันเร่งมาเหยียบที่เบรค
*ห้ามใช้สองเท้าเหยียบคันเร่งและเบรกพร้อมกันโดยเด็ดขาด
2. ขณะที่ขับรถกอล์ฟไปข้างหน้า (FORWARD) ถ้าจะเปลี่ยนมาขับถอยหลัง (REVERSE) ควรให้รถกอล์ฟจอดสนิทก่อนจึงโยกสวิทซ์ F-N-R มาที่ตำแหน่ง R และจึง เหยียบคันเร่ง
*ห้ามโยกสวิทซ์ขณะที่ยังเหยียบคันเร่งอยุ่เพราะจะทำให้อุปกรณ์ อิ-เล็กทรอนิกส์ เกิดความเสียหายได้
3. เมื่อไม่ได้ใช้รถกอล์ฟแล้ว ควรปิดสวิทซ์กุญแจทุกครั้ง และโยกสวิทซ์ F-N-R ไปที่ตำหน่ง N แล้วเหยียบบล็อกเบรกทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ
4. ขณะขับรถกอล์ฟในการบรรทุก ควรจะบรรทุกให้ถูกต้อง ห้ามบรรทุกคนและสิ่งของมากจนเกินไป
* (ถ้าจะใช้งานในการบรรทุกคนก็ไม่ควรเกิน 4 คน)
ข้อแนะนำในการบำรุงรักษารถกอล์ฟไฟฟ้า
- อัดจาระบีรถกอล์ฟทุกจุด เดือนละ 1 ครั้ง
- เช็คลมยาง ทุกๆ สัปดาห์ (ลบยางที่ใช้กับรถกอล์ฟ 18~22 ปอนด์) ทั้ง 4 ล้อ
- เช็ค/เติม น้ำกลั่นแบตเตอรี่ พร้อมทั้งขันน๊อตที่ขั้วแบตเตอรี่ ทุกๆ สัปดาห์
-เช็คและขันน๊อตโครงสร้างต่างๆ ของรถกอล์ฟทุกๆ สัปดาห์
1. วิธีตรวจเช็คแบตเตอรี่
1.1 ดูภายนอกว่ามีรอยถลอก รอยบุบ หรือ รอยกระแทกขณะขนส่งเคลื่อนย้ายหรือไม่
1.2 ดูที่ขั้วแบตเตอรี่ว่ามีสิ่งสกปรก, มีขี้เกลือเกาะหรือไม่ หากมีต้องรีบทำความสะอาดไม่อย่างนั้นขั้เกลือจะทำให้กระแสไฟรั่วออกจากแบตเตอรี่เรื่อยๆ และขั้วแบตเตอรี่ชำรุดได้ในที่สุด
1.3 ดูจุดรั่วซึมของแบตเตอรี่โดยรวม รวมทั้งที่ฝาปิด ว่ามีจุดรั่วซึมหรือไม่หากเจอจุดรั่วซึมที่แบตเตอรี่แล้วจะไม่สามารถซ่อมได้ ต้องเปลี่ยนเบตเตอรี่ใหม่เท่านั้น
2. ข้อควรระวัง
2.1 ห้ามสูบบุหรี่ใกล้ๆ แบตเตอรี่
2.2 ห้ามขันน๊อตที่ขั้วแบตเตอรี่แน่นเกินไป หากแน่นเกินไปจะทไให้ขั้วหัก, ขั้วละลาย หรือ เกิดประกายไฟขณะใช้งานเป็นอันตรายได้
2.3 หากแบตเตอรี่รั่วซึมแล้วทำการซ่อมปะเองจะทำให้แบตเตอรี่เกิดการระเบิดที่จุดนั้นได้ เป็นอันตรายมากต่อผู้ใช้งาน
3. การตรวจเช็คระดับน้ำกรด (ให้ใช้ไฮโดรมิเตอร์)
3.1 ก่อนการตรวจเช็คระดับน้ำกรด ห้ามเติมน้ำกลั่นลงไปเด็ดขาด
3.2ให้บีบไฮโดรมิเตอร์เพื่อดุดและปล่อยน้ำกลั่น 2-4 ครั้ง เพื่อป้องกันการคราดเคลื่อนในการเช็คแบตเตอรี่
3.3 เวลาดูดน้ำกลั่นขึ้นมาต้องให้เต็มหลอด ไฮโดรมิเตอร์ทุกครั้ง
3.4 เวลาเช็คระดับน้ำกรด ต้องตรวจเช็คทุกช่องของแบตเตอรี่ในลูกนั้นๆตามมาตรฐานช่อง ละ 2 โวล์ท เช่น แบตเตอรี่ลูกละ 8 โวล์ท จะต้องมี 4 รู
**หากตรวจเช็คด้วย ไฮโดรมิเตอร์แล้วพบปัญหา สาเหตุน่าจะมาจาก
1.แบตเตอรี่เก่าแล้ว และหมดอายุการใช้งานแล้ว
2. แบตเตอรี่วางนานเกินไป และไม่ได้ชาร์ทไฟเลย
3. แบตเตอรี่น่าจะต้องมีจุดรั่วทำให้น้ำกลั่น น้ำกรด ซึมออกมา
4. แบตเตอรี่เริ่มเสื่อมสภาพแล้ว
**ถ้าหากสาเหตุของปัญหามาจาก 4 ข้อข้างต้นนี้ ต้องให้ผู้เชี่ยวชายเข้าตรวจสอบให้
5. เติมน้ำกลั่นมากเกินไป
4. วิธีตรวจเช็คโวลท์ (Volt)
ก่อนตรวจเช็คโวลท์ต้องตรวจหลังจากชาร์จแล้ว 6-24 ชม. การตรวจเช้คโวลท์ต้อดูตามตาราง
** หากถึงระดับ 10-70 % แบตเตอรี่จะต้องชาร์จไฟแล้ว
13












5.วิธีเติมน้ำกลั่น
5.1 ต้องเติมน้ำกลั่นหลังจากการชาร์จไฟเสร็จแล้ว (ก่อนชาร์จไฟให้ดูระดับน้ำกลั่นว่าเกินแผ่นตะกั่วหรือไม่)
5.2 กรณีแบตเตอรี่วางไว้นาน ระดับน้ำกรดจะต้องเกินแผ่นตะกั่วนิดหน่อย ห้ามระดับน้ำกรดต่ำกว่าแผ่นตะกั่วเด็ดขาด จะทำให้แผ่นตะกั่วเสื่อมสภาพ
5.3 น้ำกลั่นที่ใช้เติมลงในแบตเตอรี่ต้องเป็นน้ำกลั่นใสเท่านั้น ห้ามเติมน้ำกลั่นมีสี, น้ำประปา ลงในแบตเตอรี่เด็ดขาด
5.4 ห้ามเดินน้ำกลั่นจนถึงฝาแบตเตอรี่ เนื่องจากขณะชาร์จไฟน้ำจะเดือดและพุ่งเกินออกมาจากแบตเตอรี่
5.5 ห้ามเติมน้ำกรดเข้าไปในแบตเตอรี่เด็ดขาด
6. วิธีทำความสะอาดแบตเตอรี่
6.1 ให้ใช้ผ้าแห้งเช็ดรอบๆ แบตเตอรี่
6.2 หากสกปรกมากถึงขั้นต้องใช้น้ำล้างออก ห้ามให้น้ำเข้าไปในช่องเดิมน้ำกลั่นที่รูฝาปิดแบตเตอรี่
6.3 ห้ามใช้จาระบีทาที่ขั้วแบตเตอรี่ ให้ใช้น้ำยาเคลือบขั้วแบตเตอรี่ฉีดพ่นที่ขั้วแบตเตอรี่ เพื่อป้องกันขี้เกลือขึ้นที่ขั้วฯ
7. วิธีเก็บรักษาแบตเตอรี่
7.1 ต้องวางในที่ที่อุรหภูมิต่ำ, ไม่ชื้น, แสงแดดส่องไม่ถึง
7.2 ถ้าแบตเตอรี่มีไฟไม่ถึง 70% ต้องชาร์จไฟอีกครั้งหนึ่งก่อนเก็บ และก่อนนำมาใช้งานก็ต้องชาร์จไฟอีกครั้ง
8. วิธีการชาร์จไฟ
แบตเตอรี่รุ่นนี้ (Deep Cycle) ไม่เหมือนกับแบตเตอรี่รุ่นเก่าที่มี Memory (หน่วยความจำ) ในตัว
8.1 ไม่จำเป็นต้องรอให้ให้หมดแล้วค่อยชาร์จไฟ เช่นใช้ไฟไป 30 % ก็ชาร์จไฟๆได้แล้วไม่ต้องรอให้หมดเกลี้ยง (ต้องดูที่โวลท์ขอ
แบตเตอรี่ว่าเหลืออยู่เท่าไหร่)
8.2 ในการชาร์จไฟทุกครั้งจะจ้องชาร์จตามขั้นตอน คือ ต้องให้ตู้ชาร์จตัดไฟเองเข็มวัดของตู้ถึงเลข 0 ถึงถอด ได้ห้ามใช้รถระหว่างชาร์จไฟไม่จบขั้นตอน เพราะจะทำให้แบตเตอรี่เสียเร็วมาก เนื่องจากการถอดแบตเตอรี่ของเรานั้นเหมือนกับการต้มน้ำที่ยังเดือดไม่สุดมีฟองค้างอยู่ข้างในเราปิดไฟก่อนน้ำเดือดเต็มที่ฟองก้ยังค้างเป็นฝุ่นสะสมข้างในเรื่อยๆ ทำให้แบตเตอรี่ เสียเร็วมาก
9. การใช้แบตเตอรี่ในรถกอล์ฟ
ต้องใช้แบตเตอรี่ทั้งยี่ห้อ, รุ่น และ โวลท์ ที่เหมือนกัน เช่น ถ้าใช้แบตเตอรี่ Trojan 6 โวล์ทก็ต้องใช้ Trojan 6 โวลท์ ทั้งชุด ห้ามใช้ 8 โวลท์ หรือ 12 โวลท์ มาผสมกัน และถ้ายี่ห้อเหมือนกัน, โวลท์เหมือนกัน แต่คนละรุ่นก็ใช้ผสมด้วยกันไม่ได้
หมายเหตุ   กรณีชาร์จไฟรถกอล์ฟที่มีตู้ชาร์จเป็นไฟแบบ 110 โวลท์
ขั้นตอนการแปลงไฟบ้านจาก 220 V. ให้เป็น 110 V. ก่อนจะใช้งานชาร์จไฟรถกอล์ฟ
15





ขอบคุณที่มาและภาพ ประกอบ http://www.greatminerva.com/golf/webboard/index.php?topic=29.0
- See more at: http://blogs.jssr.co.th/?p=1015#sthash.Q7sclDxZ.dpuf

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น